2007年6月17日日曜日



สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พระนามเดิม " เจ้าฟ้าเพชร " เป็นพระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระเจ้าเสือ ขึ้นครองราชย์ใน ปี พ.ศ. ๒๒๕๑ ภายหลังการสวรรคตของพระราชบิดา โดยมี " เจ้าฟ้าพร " พระอนุชา เป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ มีพระนามว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๙ โดยพระนามที่เป็นที่รู้จักกันคือ พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ นั้นมาจาก พระที่นั่งยรรยงก์รัตนนาสน์ ซึ่งเป็นประทับอันอยู่ข้างสระน้ำท้ายพระบรมมหาราชวัง
ในรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่งเรือสำเภาบรรทุกสินค้าไปค้าขายที่เมืองท่ามะริด ไปจรดถึงทวีปแอฟริกาตอนเหนือ มีการขุดคลองสำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ " คลองมหาไชย " และ " คลองเกร็ดน้อย " มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ " วัดมเหยงค์ " และ " วัดกุฏีดาว " มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของวัดป่าโม! ก เพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น
ปลายรัชสมัย มีการแย่งชิงราชสมบัติอย่างรุนแรง กินระยะเวลาไม่ต่ำกว่า ๑ ปี ระหว่างพระราชโอรส ๒ พระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ กับกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เสด็จสวรรคตด้วยพระโรคมะเร็งที่พระชิวหาและพระศอ ในปี พ.ศ. ๒๒๗๖ รวมระยะเวลาครองราชย์ ๒๕ ปี



สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ
เกร็ดที่น่าสนใจ

ทรงเป็นกษัตริย์ที่โปรดเสวยปลาตะเพียนมาก โดยออกพระราชกำหนดห้ามราษฎรจับหรือรับประทานปลาตะเพียน หากผู้ใดฝ่าฝืน มีบทลงโทษ คือ ปรับเป็นเงิน ๕ ตำลึง หรือ ๒o บาท
ทรงพระราชทานท้องพระโรงแก่สมเด็จพระสังฆราชแตงโม (ทอง) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระองค์โดยล่องเรือจากอยุธยาไปเพชรบุรีแล้วไปสร้างที่วัดใหญ่สุวรรณาราม (วัดสุวรรณาราม บ้างก็เรียกวัดใหญ่) จึงทำให้คงเหลือพระราชวัง ท้องพระโรงที่แสดงถึงศิลปกรรมของอยุธยาที่รอดเหลือจากการเผาของพม่าเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ ๒ อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

0 件のコメント: