2007年6月9日土曜日

พรรคคอมมิวนิสต์จีน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นกองหน้าของชนชั้นกรรมกรของจีน ขณะเดียวกัน
เป็นกองหน้าของ ประชาชนและประชาชาติจีน เป็นศูนย์นำภารกิจสังคมนิยมที่ มีเอกลักษณ์ของจีน เป็นตัวแทน ความต้องการในการพัฒนากำลังการผลิตที่ทันสมัย
และตัวแทนทิศทางความก้าวหน้าของ วัฒนธรรมจีนที่ทันสมัยและก็เป็นตัวแทนผล ประโยชย์ขั้นมูลฐานของประชาชนจีนอันไพศาลที่สุด เหมาเจ๋อตุงได้ยินเกี่ยวกับการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ในรัสเซียและเขาก็เป็นผู้ปฏิวัติลัทธิ มาร์กตั้งแต่นั้นก็ก่อให้เกิดพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2464 โดยเหมาเจ๋อตุง พรรคค�! ��มมิวนิสต์จีนต่อสู้กับพรรคก๊กมินตั๋งหลายครั้งแต่ก็แพ้หลายครั้งแล้วเจอการ รุกรานของญี่ปุ่นจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 สหภาพโซเวียตได้มอบอาวุธจํานวน มากให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน และได้ทําการรบกับพรรคก๊กมินตั๋ง จนได้รับชัยชนะปกครองประเทศจีนและประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในวันที่ 1 ตุลาคม 2492 เหมาเจ๋อตุงได้ประกาศว่า ณ �! �ันนี้สาธารณรัฐประชาชนจี นศูนย์กลางอํานาจของประชาชนได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว และปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้นำประชาชนชนชาติต่าง ๆ ทั่วประเทศ รักษาไว้ซึ่งเอกราชและ ความมั่นคงของชาติ ได้บรรลุซึ่งการประเปลี่ยนของสังคมจีน จากลัทธิประชาธิปไตยใหม่สู่สังคมนิยม เป็นผลสำเร็จมีโครงการจนทำให้ภารกิจเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของจีนได้รับการพัฒนาอย่างใหญ่�! �ลวงที่ีไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีข้อคิดเห็นให้พัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศอย่างแข็งขัน พยายามช่วง ชิงบรรยากาศระหว่างประเทศที่เป็นผลดีต่อการปฏิรูปและเปิดประเทศและการสร้างสรรค์ที่ทันสมัย ของจีน ในกิจการระหว่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดดำเนินนโยบายต่าง ประเทศที่สันติ และอิสระเป็นตัวของตัวเอง รักษาเอกราชและอธิปไตยของจีน คัดค้านลัทธิครอง ความเป�! ��นเจ้าและ การเมืองที่วางอำนาจบาตรใหญ่ ป้องกันสันติภาพของโลก ส่งเสริมความก้าวหน้า ของมนุษยชาติ
พัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นองค์เอกภาพที่ก่อตั้งชึ้น ตามหลักนโยบายและธรรมนูญองค์การส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสค์จีนรวมถึงการประชุมสมัชชา ผู้แทนทั่วประเทศของ พรรค ฯ คณะกรรมการกลาง กรมการเมือง คณะกรรมการประจำกรมการเมือง
สำนักเลขาธิการ คณะกรรมการการทหารและคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์จีนการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดประชุม 5 ปีต่อครั้ง
ปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีสมาชิกร่วม 70 ล้านคน เลขาธิการใหญ่คนปัจจุบันคือ นายหูจิ่นเทา
พรรคคอมมิวนิสต์จีน สาธารณรัฐประชาชนจีนปกครองในระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีสมาชิกประมาณ 68 ล้านคน(สถิติปี 2547)เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีอำนาจในการกำหนดนโยบายด้านต่างๆของประ เทศอย่างเบ็ดเสร็จตามแนวทางลัทธิมาร์กซ์-เลนิน ความคิดของอดีตประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตง ทฤษฎีการ สร้างสรรค์สังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์แบบจีนของเติ้ง เสี่ยวผ�! ��ง รวมถึงทฤษฎีสามตัวแทนที่ได้รับการบรรจุเข้า ในธรรมนูญของรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 โดยรัฐบาลและรัฐสภามีหน้าที่คอยปฏิบัติตามมติและนโยบาย ที่พรรคกำหนดโดยยึดหลักประชาธิปไตยรวมศูนย์ (Democratic Centralism) ตามธรรมนูญพรรค

กำหนดให้มีการประชุมสมัชชาพรรคแห่งชาติ (Party Congress) ทุก 5 ปี นับตั้งแต่ได้มีการจัดตั้ง พรรคขึ้นในปี 2464 จนถึงปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้จัดให้มีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ แล้วรวมทั้งสิ้น 16 ครั้ง โดยได้จัดประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 ซึ่งนายหู จิ่นเทา ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ คนปัจจุบัน (วาระ 5 ปี)
การเมืองภายในจีนยังคงมีเสถียรภาพภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 8-14พฤศจิกายน

2545ได้มีการประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่16ซึ่งมีการถ่ายโอนอำนาจจากผู้นำรุ่นที่3ซึ่งมีนาย เจียง เจ๋อหมิน เป็นแกนนำ ไปยังรุ่นที่ 4 ซึ่งมีนายหู จิ่นเทา เป็นแกนนำ
ที่ประชุมได้แต่งตั้งนายหู จิ่นเทา เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน พร้อมทั้งแต่งตั้งสมาชิกถาวรประจำกรมการเมือง (Members of Standing Committee of the Political Bureau of the Central Committee of CPC) อีก 8 คน ถือได้ว่าบุคคลทั้ง 9 คนนี้ เป็นผู้ที่มีความสำคัญทางการเมืองระดับสูงสุดของจีน
ระหว่างวันที่ 5-18 มีนาคม 2546 ได้มีการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติสมัยที่ 10 ขึ้น ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการสรุปผลการบริหารประเทศในช่วง 5 ปี พร้อมทั้งแต่งตั้งผู้นำรัฐบาล ชุดใหม่ โดยได้แต่งตั้งให้ นายหู จิ่นเทา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นประธานาธิบดี ( สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน) และนายเวิน เจียเป่า เป็นนายกรัฐมนตรี (สืบแทนนายจู หรงจี) ในขณะที่ นายเจียง เจ�! �อหมิน ยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อไปอีกสมัย
ต่อมา ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 4 ของสมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2547 ได้อนุมัติให้นายหู จิ่นเทา ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหาร

(สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน) โดยจะมีผลเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสภาประชาชนในเดือนมีนาคม 2548

0 件のコメント: