2007年7月23日月曜日

อินเตอร์ฟีรอน
สารบัญ
เจ้าหญิงม้อดประสูติที่พระตำหนักมาร์ลโบโร ในกรุงลอนดอน โดยทรงมีพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงม้อดแห่งเวลส์ พระธิดาพระองค์เล็กในเจ้าชายแห่งเวลส์ (ต่อมาภายหลังคือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7) พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรียและรัชทายาทอันดับที่ 1 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ส่วนพระชนนีของเจ้าหญิงนั้นคือ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งก็คือ เจ! ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก
เจ้าหญิงม้อดทรงเข้ารับศีลจุ่มที่พระตำหนักมาร์ลโบโรจากจอห์น แจ็คสัน พระราชาคณะแห่งลอนดอน เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2412 ซึ่งทรงมีพ่อและแม่ทูนหัวคือ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสวีเดนและนอร์เวย์ เจ้าชายเลโอโพลด์ ดยุคแห่งออลบานี เจ้าชายแห่งเฮสส์ เจ้าชายวิกเตอร์แห่งโฮเฮ็นโลเฮ-แล็งเก็นบูร์ก เจ้าหญิงอเดลไฮด์ ดัชเชสพระชายาแห่งนัสเซา เจ้าหญิงมารี เจ้าหญิงพร! ะชายาแห่งไลนิงเกิน แกรนด์ดัชเชสมาเรีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย (ในภายหลังทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งรัสเซีย) มกุฎราชกุมารีหลุยส์แห่งเดนมาร์ก และเซซิเลีย ดัชเชสแห่งอินเวอร์เนส
เจ้าหญิงทรงเป็นเด็กที่มีความกระฉับกระเฉงอย่างมาก จึงทำให้ทรงมีชื่อเรียกแบบเล่นๆว่า "แฮร์รี่" พระองค์ทรงมีส่วนร่วมอย่างมากในการเสด็จเยี่ยมเยียน ครอบครัวของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่เดนมาร์กเป็นประจำทุกปี และต่อมายังได้โดยเสด็จพระชนนีและพระภคินีบนเรือหลวงไปนอร์เวย์และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เจ้าหญิงพร้อมด้วยเจ้าหญิงหลุยส์และเจ้าหญิงวิกตอเรีย! พระภคินีทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎแห่งอินเดียจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2430 และยังทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์วิกตอเรียและอัลเบิร์ต ชั้นที่ 1 และเครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเล็ม ชั้นที่ 1 อีกด้วย


�
ชีวิตในวัยเยาว์
เจ้าหญิงม้อดอภิเษกสมรสกับเจ้าชายคาร์ลแห่งเดนมาร์ก พระญาติสนิทในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2439 ณ โบสถ์ประจำราชวงศ์ ในพระราชวังบัคกิ้งแฮม เจ้าชายคาร์ลทรงเป็นพระโอรสพระองค์ที่สองในมกุฎราชกุมารเฟรเดอริคแห่งเดนมาร์ก พระเชษฐาในสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา กับเจ้าหญิงหลุยส์แห่งสวีเดน พระชนกของเจ้าหญิงพระราชทานพระตำหนักแอปเปิ้ลตัน ในเขตพระราชฐานแซนดริงแฮ�! �ไว้เพื่อให้เป็นตำหนักชนบทสำหรับการเสด็จเยือนอังกฤษอยู่เป็นประจำของพระองค์ และที่แห่งนี้ก็ได้เป็นที่ประสูติของพระโอรสเพียงพระองค์เดียวคือ
เจ้าชายคาร์ลทรงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในราชนาวีเดนมาร์ก พระองค์และครอบครัวประทับอยู่ในประเทศเดนมาร์กเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งปี พ.ศ. 2448 ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน รัฐสภาแห่งนอร์เวย์ได้แยกประเทศนอร์เวย์ออกจากการรวมตัวมาเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีกับสวีเดนและทูลเกล้าถวายราชบัลลังก์แก่เจ้าชายคาร์ล พระองค์ทรงยอมรับราชบัลลังก์นอร์เวย์หลังจากการสำรวจประชามต�! �ของชาวนอร์เวย์ในเดือนพฤศจิกายน โดยทรงใช้พระนามว่า ฮากอนที่ 7 ขณะที่พระโอรสทรงใช้พระนามว่า โอลาฟ กษัตริย์ฮากอนและพระราชินีม้อดทรงเข้าพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2449 ณ โบสถ์นิดารอส เมืองทรอนด์ไฮม์ ซึ่งเป็นพระราชพิธีสวมมงกุฎครั้งสุดท้ายของพระประมุขชาวสแกนดิเนเวีย

สมเด็จเจ้าฟ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งเดนมาร์ก (อเล็กซานเดอร์ เอ็ดเวิร์ด คริสเตียน เฟรเดริค; 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2446 - 17 มกราคม พ.ศ. 2534)

ทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น เจ้าฟ้าชายโอลาฟ มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448 เมื่อพระชนกเสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์แห่งนอร์เวย์
เสวยราชสมบัติเป็น สมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2500 หลังจากการเสด็จสวรรคตของพระชนก
ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2472 ณ กรุงออสโล กับ เจ้าหญิงมาร์ธา โซเฟีย โลวิซา แด็กมาร์ ไธราแห่งสวีเดน (28 มีนาคม พ.ศ. 2444 - 5 เมษายน พ.ศ. 2497) ทรงมีพระโอรสและธิดา 3 พระองค์

ชีวิตของราชินี
เจ้าหญิงม้อดสิ้นพระชนม์วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 ณ กรุงลอนดอน ด้วยอาการพระหทัยวาย เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนวันประสูติครบรอบ 69 พรรษา 3 วันหลังจากการผ่าตัด พระศพของพระองค์ถูกนำกลับไปสู่ประเทศนอร์เวย์บนเรือหลวง Royal Oak ซึ่งเป็นเรือประดับธงของกองเรือรบที่ 2 แห่งราชนาวีนอร์เวย์ และถูกฝังลงในสุสานหลวงที่วิหารอาเคอร์ชุส


0 件のコメント: