2007年10月14日日曜日


แมกนีเซียม(อังกฤษ:Magnesium)เป็นธาตุเคมีในตารางธาตุที่มีสัญลักษณ์ Mg และเลขอะตอม 12 แมกนีเซียมเป็นธาตุที่มีอยู่มากเป็นอันดับ 8 และเป็นส่วนประกอบของเปลือกโลกประมาณ 2% และเป็นธาตุที่ละลายในน้ำทะเลมากเป็นอันดับ 3 โลหะอัลคาไลเอิร์ธตัวนี้ส่วนมากใช้เป็นตัวผสมโลหะเพื่อทำโลหะผสมอะลูมิเนียม-แมกนีเซียม
แมกนีเซียม

2007年10月13日土曜日

พ.ศ. 1944พ.ศ. 1944
พุทธศักราช 1944 ใกล้เคียงกับ

เมษายน ค.ศ. 1401 - มีนาคม ค.ศ. 1402
ค.ศ. 1401 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันเสาร์ตามปฏิทินจูเลียน
ค.ศ. 1402 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันอาทิตย์ตามปฏิทินจูเลียน
มหาศักราช 1323
ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช 763 (วันที่ 28 มีนาคม เป็นวันเถลิงศก) เหตุการณ์

2007年10月12日金曜日

ยูนิกซ์
ยูนิกซ์ (UNIX) เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบบหลายงาน หลายผู้ใช้ ที่เริ่มพัฒนาโดยกลุ่มพนักงานของห้องปฏิบัติการ AT&T Bell Labs โดยกลุ่มนักพัฒนาที่เป็นที่รู้จัก คือ Ken Thompson, Dennis Ritchie และ Douglas McIlroy

ยูนิกซ์ ประวัติ
ในทศวรรษที่ 60 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT), AT&T Bell Labs และบริษัท General Electric ได้ร่วมมือกันวิจัยระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Multics (ย่อมาจาก Multiplexed Information and Computing Service) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำงานบนเครื่องเมนเฟรมรุ่น GE-645 แต่ภายหลัง AT&T ได้ถอนตัวออกจากโครงการนี้
Ken Thompson ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาในขณะนั้น ได้เขียนเกมบนเครื่อง GE-645 ชื่อว่าเกม Space Travel และพบปัญหาว่าเกมทำงานได้ช้ากว่าที่ควร เขาจึงย้ายมาเขียนเกมใหม่บนเครื่อง PDP-7 ของบริษัท DEC แทนด้วยภาษาแอสเซมบลี โดยความช่วยเหลือของ Dennis Ritchie ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ Thompson หันมาพัฒนาระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PDP-7
ระบบปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า UNICS ย่อมาจาก Uniplexed Information and Computing System เนื่องจากว่าการออกเสียงสามารถสะกดได้หลายแบบ และพบปัญหาชื่อใกล้เคียงกับ Multics ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่่อเป็น Unix
การพัฒนายูนิกซ์ในช่วงนี้ยังไม่ได้รับความสนับสนุนด้านการเงินจาก Bell Labs เมื่อระบบพัฒนามากขึ้น Thompson และ Ritchie จึงสัญญาว่าจะเพิ่มความสามารถในการประมวลผลคำ (Word Processing) บนเครื่อง PDP-11/20 และเริ่มได้รับการตอบรับจาก Bell Labs ในปีค.ศ. 1970 ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จึงได้รับการเรียกชื่ออย่างเป็นทางการ โปรแกรมประมวลผลคำมีชื่อว่า roff และหนังสือ UNIX Programmer's Manual ตีพิมพ์ครั้งแรกวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971
ค.ศ. 1973 ได้เขียนยูนิกซ์ขึ้นมาใหม่ด้วยภาษาซี ทำให้สะดวกต่อการนำยูนิกซ์ไปทำงานบนเครื่องชนิดอื่นมากขึ้น ทาง AT&T ได้เผยแพร่ยูนิกซ์ไปยังมหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล โดยสัญญาการใช้งานเปิดเผยซอร์สโค้ด ยกเว้นเคอร์เนลส่วนที่เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลี
ยูนิกซ์เวอร์ชัน 4,5 และ 6 ออกในค.ศ. 1975 ได้เพิ่มคุณสมบัติ pipe เข้ามา ยูนิกซ์เวอร์ชัน 7 ซึ่งเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่พัฒนาแบบการวิจัย ออกในค.ศ. 1979 ยูนิกซ์เวอร์ชัน 8,9 และ 10 ออกมาในภายหลังในทศวรรษที่ 80 ในวงจำกัดเฉพาะมหาวิทยาลัยบางแห่งเท่านั้น และเป็นต้นกำเนิดของระบบปฏิบัติการ Plan 9
ค.ศ. 1982 AT&T นำยูนิกซ์ 7 มาพัฒนาและออกขายในชื่อ Unix System III แต่บริษัทลูกของ AT&T ชื่อว่า Western Electric ยังคงนำยูนิกซ์รุ่นเก่ามาขายอยู่เช่นกัน เพื่อยุติความสับสนทางด้านชื่อ AT&T จึงรวมการพัฒนาทั้งหมดจากบริษัทและมหาวิทยาลัยต่างๆใน Unix System V ซึ่งมีโปรแกรมอย่าง vi ที่พัฒนาโดย Berkeley Software Distribution (BSD) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ รวมอยู่ด้วย ยูนิกซ์รุ่นนี้สามารถทำงานได้บนเครื่อง VAX ของบริษัท DEC
ยูนิกซ์รุ่นที่เป็นการค้าไม่เปิดเผยซอร์สโค้ดอีกต่อไป ทางมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ จึงพัฒนายูนิกซ์ของตัวเองต่อเพื่อเป็นทางเลือกกับ System V การพัฒนาที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มการสนับสนุนโปรโตคอลสำหรับเครือข่าย TCP/IP เข้ามา
บริษัทอื่นๆ เริ่มพัฒนายูนิกซ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบของตนเอง โดยส่วนมากใช้ยูนิกซ์ที่ซื้อสัญญามาจาก System V แต่บางบริษัทเลือกพัฒนาจาก BSD แทน หนึ่งในทีมพัฒนาของ BSD คือ Bill Joy มีส่วนในการสร้าง SunOS (ปัจจุบันคือ โซลาริส) ของบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์
ค.ศ. 1981 ทีมพัฒนา BSD ได้ออกจากมหาวิทยาลัยและก่อตั้งบริษัท Berkeley Software Design, Inc (BSDI) เป็นบริษัทแรกที่นำ BSD มาขายในเชิงการค้า ในภายหลังเป็นต้นกำเนิดของระบบปฏิบัติการ FreeBSD, OpenBSD และ NetBSD
AT&T ยังคงพัฒนาความสามารถต่างๆ เข้าสู่ยูนิกซ์ System V และรวมเอา Xenix (ยูนิกซ์ของบริษัทไมโครซอฟท์), BSD และ SunOS เข้ามารวมใน System V Release 4 (SVR4) เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งเดียวสำหรับลูกค้า ซึ่งเพิ่มราคาขึ้นอีกมาก
หลังจากนั้นไม่นาน AT&T ขายสิทธิ์ในการถือครองยูนิกซ์ให้กับบริษัทโนเวล และโนเวลเองได้สร้างยูนิกซ์ของตัวเองที่ชื่อ UnixWare ซึ่งพัฒนามาจากระบบปฏิบัติการ NetWare เพื่อแข่งกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็นทีของไมโครซอฟท์
ค.ศ. 1995 โนเวลขายส่วนต่างๆ ของยูนิกซ์ให้กับบริษัท Santa Cruz Operation (SCO) โดยโนเวลยังถือลิขสิทธิ์ของยูนิกซ์ไว้ ค.ศ. 2000 SCO ขายสิทธิ์ส่วนของตนเองให้กับบริษัท Caldera ซึ่งเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็น SCO Group ซึ่งเป็นสาเหตุในการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับลินุกซ์

2007年10月11日木曜日

ชอบ คำนี้ให้ด้วยดวงใจบริสุทธิ์
วิกิพีเดียยังไม่มีบทความที่ตรงกับชื่อนี้
เริ่มบทความ ชอบ คำนี้ให้ด้วยดวงใจบริสุ
ค้นหา ชอบ คำนี้ให้ด้วยดวงใจบริสุ ในบทความอื่น ๆ
ดูบทความที่กล่าวถึง ชอบ คำนี้ให้ด้วยดวงใจบริสุ
ถ้าคุณสร้างหน้านี้แล้วเมื่อไม่นานมานี้แต่มันยังไม่ปรากฏขึ้น เป็นไปได้ที่จะมีการล่าช้าในปรับปรุงฐานข้อมูล ลองล้างข้อมูลเก่าในเครื่อง หรือกรุณารอสักครู่และตรวจดูอีกครั้งก่อนที่ท่านจะลองสร้างหน้าใหม่
ถ้าคุณสร้างบทความชื่อเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ มันอาจจะถูกลบไปแล้ว ดู ปูมการลบ และทำไมหน้าถึงโดนลบ
ถ้าต้องการถามคำถามเกี่ยวกับ ชอบ คำนี้ให้ด้วยดวงใจบริสุ ให้ลองถามที่ ปุจฉา-วิสัชนา

2007年10月10日水曜日

พ.ศ. 1062
พุทธศักราช 1062 ใกล้เคียงกับ

เมษายน ค.ศ. 519 - มีนาคม ค.ศ. 520
มหาศักราช 441 พ.ศ. 1062 วันเกิด

2007年10月9日火曜日

สนามบินฮาเนดะสนามบินฮาเนดะ
ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (「東京国際空港」 Tōkyō Kokusai Kūkō

อาคารผู้โดยสาร 2
ให้บริการเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกิมโป ในกรุงโซล และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ

โกเรียนแอร์
เจแปนแอร์ไลน์
ออลนิปปอนแอร์เวย์
เอเชียน่าแอร์ไลน์

2007年10月6日土曜日


นัตสึมิ อาเบะ (「安倍なつみ」 Abe Natsumi) (เกิดวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2524) คือนักร้องและนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่น ผู้ที่เคยเป็นสมาชิกนำของกลุ่ม มอร์นิงมุซุเมะ อันโด่งดัง โดยในปัจจุบันนี้เธอยังคงทำหน้าที่เป็นนักร้องในสังกัดเฮลโล! โปรเจ็คท์ อยู่

ช้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
ในปีพ.ศ. 2540 นัตสึมิ อาเบะ ได้เข้ามาเป็นสมาชิกรุ่นแรกของมอร์นิงมุซุเมะ กลุ่มนักร้องหญิงชื่อดังของญี่ปุ่น เธอได้รับหน้าที่ให้เป็นนักร้องนำในเพลงซิงเกิลหลาย ๆ เพลง (โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้าที่มากิ โกะโต สมาชิกรุ่นที่สาม จะเข้ามาอยู่ในกลุ่ม)โดยผลงานที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือเพลง ฟูรุซาโตะ เหตุเพราะว่า ในเพลงนี้เธอได้รับหน้าที่ให้ร้องนำเพียงผู้เดียว ส่วนสมาชิกในกลุ่มคนอื่น ๆ ได้รับบทบาทเป็นเพียงนักร้องในแนวเสียงคอรัสและแบ็คอัพเท่านั้น
นอกจากงานเพลงที่เธอสร้างร่วมกับกลุ่มแล้ว อาเบะยังได้ร้องเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวออกมาอีกจำนวนหนึ่ง เช่น เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณาที่เธอร่วมแสดงด้วย และเพลง โอโตโกะ โทโมดาจิ ซึ่งมีการบันทึกเอาไว้ในอัลบั้ม อิกิมัสโชย! ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สี่ของมอร์นิงมุซุเมะ
ทางด้านงานการแสดง เธอได้เล่นบทนำในละครและภาพยนตร์ของมอร์นิงมุซุเมะในเรื่อง เลิฟว์ เซ็นจูรี และ พินช์รันเนอร์ และยังได้มีโอกาสไปแสดงละครโทรทัศน์อื่น ๆ นอกเหนือจากสังกัดตนเองอีกด้วย เช่นเรื่อง เนิร์ซแมน เป็นต้น
อาเบะไม่เคยได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักร้องย่อยของมอร์นิงมุซุเมะเลย แต่เคยได้เข้าไปร่วมงานในกลุ่มพิเศษที่ถูกตั้งขึ้นตามระบบชัฟเฟิล ยูนิทส์ ของเฮลโล! โปรเจ็คท์ เท่านั้น อย่างเช่นกลุ่ม คีโระ 5 และ โอโดรุ 11 เป็นต้น
ในปีพ.ศ. 2546 อาเบะได้ตั้งทีมนักร้องร่วมกับโยซูมิ เคโกะ อดีตสมาชิกของโรกุเซ็มมง โดยเป็นกลุ่มนักร้องสองคนที่ถูกขนานนามว่ากลุ่ม "แม่กับลูกสาว" ซึ่งกลุ่มนี้ได้สร้างผลงานเพลงซิงเกิลหนึ่งเพลง โดยงานนี้เป็นการสร้างที่มีจุดประสงค์เพื่อที่จะเตรียมพร้อมในการทำงานเป็นศิลปินเดี่ยวของเธอ
จนกระทั่งในช่วงฤดูร้อนของปีเดียวกัน อาเบะได้เริ่มงานในฐานะของศิลปินเดี่ยวอย่างเป็นทางการ โดยเพลงซิงเกิลเพลงแรกของเธอมีชื่อว่า 22 ไซ โนะ วาตาชิ ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 13 สิงหาคม ไม่กี่วันจากวันเกิดปีที่ 22 ของเธอ ส่วนซีดีเพลงเดี่ยวของเธอก็ได้วางจำหน่ายหลังจากนั้นมาไม่นานนัก โดยผลงานส่วนใหญ่ในงานชุดนั้นจะเป็นเพลงของกลุ่มมอร์นิงมุซุเมะที่เธอนำมาขับร้องใหม่
ในครั้งที่มอร์นิงมุซุเมะได้แบ่งตัวเองออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อความสะดวกในการตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตภายในประเทศญี่ปุ่น อาเบะก็ได้รับหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าของกลุ่ม มอร์นิงมุซุมะ ซากูระ กูมิ ที่เป็นหนึ่งในสองกลุ่มซึ่งถูกแบ่งออกมา จนกระทั่งวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2547 หลังจากการทัวร์ฤดูหนาวของนักร้องในสังกัดเฮลโล! โปรเจ็คท์ จบลงไปแล้ว นัตสึมิ อาเบะ ก็ได้ 'สำเร็จการศึกษา' จากมอร์นิงมุซุเมะไป เพื่อที่จะได้ทุ่มเวลาให้แก่งานเพลงเดี่ยวของเธออย่างเต็มที่
หลังจากนั้นมา อาเบะได้สร้างงานซิงเกิลออกมาอีกหลายงาน และขณะเดียวกัน เธอก็ยังได้มาร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ของทางเฮลโล! โปรเจ็คท์ อยู่เรื่อย ๆ อย่างเช่น แสดงคอนเสิร์ต หรือร่วมงานเพลงกับอายะ มัตสึอุระ และมากิ โกะโต ในกลุ่มที่ชื่อว่า โนจิอุระ นัตสึมิ และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเพลงที่ชื่อว่า ออล ฟอร์ วัน แอนด์ วัน ฟอร์ ออล ร่วมกับศิลปินทุกคนและกลุ่มนักร้องทุกกลุ่มที่อยู่ในเฮลโล! โปรเจ็คท์ เป็นต้น
ในช่วงปลายปีพ.ศ. 2547 อาเบะต้องพบกับข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับเรื่องที่เธอได้นำเอาบทกลอนของผู้อื่นมาเขียนเอาไว้ในผลงานสมุดรวมภาพของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เธอต้องออกมารับผิดชอบผ่านสื่อโดยการขอโทษ และได้พักงานตัวเองเป็นเวลา 3 เดือน โดยในช่วงเวลานั้น เธอจะไม่ร่วมงานใด ๆ ในสังกัดเลย รวมไปถึงการแสดงคอนเสิร์ต 'สำเร็จการศึกษา' ของคาโอริ อีดะ เพื่อนร่วมรุ่นก่อตั้งของเธอ ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2548 ด้วย นอกจากนั้นแล้ว อัลบั้มเพลงของเธอ ที่มีกำหนดการณ์วางจำหน่ายในช่วงต้นปีเดียวกัน และผลงานซิงเกิลที่ชื่อว่า นาริยามะไน แทมบูริน ที่จะเปิดตัวในวันที่ 26 มกราคม ก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วย
จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 อาเบะก็ได้กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง โดยในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน เธอได้เปิดตัวเพลงซิงเกิลที่ 5 ของเธอ ที่ชื่อว่า โคย โนะ ฮานะ และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มพิเศษของเฮลโล! โปรเจ็คท์ ที่ชื่อ DEF.DIVA ร่วมกับมากิ โกะโต, ริกะ อิชิกาวะ และอายะ มัตสึอุระ
ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เธอได้ออกผลงานซิงเกิลมาอีกหนึ่งเพลง โดยใช้ชื่อว่า ทาการะโมโนะ หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ เซ็ง ซึ่งชื่อที่สองนี้มีที่มาจากชื่อของตัวละครหลักที่รับบทโดยอาเบะ ในเรื่อง ทาการะโมโนะ นั่นเอง
ฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ. 2549 สวีท-โอ-ฮอลิค ซิงเกิลใหม่ของอาเบะก็ได้เปิดตัวออกมาสู่ผู้ฟัง พร้อมกันกับอัลบั้มเพลงใหม่ของเธอที่ชื่อว่า เซคคันด์~ชิมิวาตารุ โอโมย และในปีเดียวกันนี้เอง นัตสึมิและอาซามิ อาเบะ น้องสาวแท้ ๆ ของเธอ ได้ร่วมกันแสดงละครโทรทัศน์ของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยละครเรื่องนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ เดอะ พีนัทส์ -- กลุ่มนักร้องดูโอแนวป็อปชาวญี่ปุ่น ที่โด่งดังในช่วงยุค 60
ในเดือนมิถุนายนของปีเดียวกัน หลังจากที่ผลงานสมุดรวมภาพถ่ายชุด écru ได้ตีพิมพ์ไปแล้ว ก็เกิดกระแสการรวมตัวกันของคนที่เกลียดเธอขึ้นในโลกออนไลน์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมีการกล่าวหาว่า อาเบะได้ฆ่าเต่ากระซึ่งเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นในดีวีดีบันทึกเบื้องหลังการทำงานในสมุดรวมภาพชุดนี้ แต่ภาพนั้นไม่ปรากฏออกมาภายนอกเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตได้ตัดมันทิ้งไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อว่าข่าวนี้เป็นเพียงการปล่อยข่าวลวงออกมาเพื่อที่จะสร้างเรื่องอื้อฉาวในวงการบันเทิงอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้น ส่วนตัวอาเบะเองก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดใด ๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ และข่าวดังกล่าวนี้ก็มิได้กระทบกับงานที่เธอได้ทำในเฮลโล! โปรเจ็คท์ แต่อย่างใด
นอกจากนั้นแล้ว ผลงานเพลง อามาซูงิตะ คาจิตสึ ของเธอ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน ก็ยังขึ้นไปติดอันดับที่ 5 ของตารางโอริคอน ชาร์ท แบบสวนกระแสกลุ่มคนที่เกลียดเธออีกด้วย (เพลงอามาซูงิตะ คาจิตสึ เป็นผลงานของเธอที่ติดอันดับสูงที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมา)
และในช่วงต้นปีพ.ศ. 2550 อาเบะก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนักร้องที่ชื่อ มอร์นิงมุซุเมะ ทันโจ 10 เน็งคิเน็นไต (「モーニング娘。誕生10年記念隊」 Morning Musume Tanjō 10 Nen Kinentai) จะเปิดตัววันแรกในวันที่ 24 มกราคมศกนี้

ประวัติการทำงาน

โนโซมิ สึจิ มักจะเรียกเธอว่า นะจิมิ ส่วนยูโกะ นากาซาวะ กับเค ยาซูดะ จะเรียกเธอว่า นัตสึอัง
น้องสาวของเธอที่ชื่ออาซามิ อาเบะ ได้เริ่มทำงานทางดนตรีของตัวเองเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2546
ชื่อ "นัตสึมิ" ของเธอ มีที่มาจากตัวละครที่ชื่อ อาซาอิ นัตสึมิ ซึ่งนำแสดงโดย คาโอริ โมโมอิ ในละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นเรื่อง จตโตะ มาย เวย์ (ฉายเมื่อพ.ศ. 2522)
แรงบันดาลใจที่ทำให้อาเบะอยากเป็นนักร้องนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เธอได้ฟังเพลง จีซานะ โคโระ คาระ ของวงจูดีย์ แอนด์ แมรีย์ เมื่อตอนที่เธอยังเป็นนักเรียนอยู่ รายละเอียดปลีกย่อย

กลุ่มนักร้องในเฮลโล! โปรเจ็คท์

  • มอร์นิงมุซุเมะ (พ.ศ. 2540พ.ศ. 2547)
    โนจิอูระ นัตสึมิ (พ.ศ. 2547)
    DEF.DIVA (พ.ศ. 2548)
    กลุ่มย่อยในมอร์นิงมุซุเมะ

    • มอร์นิงมุซุเมะ ซากูระ กูมิ (พ.ศ. 2546 – พ.ศ. 2547)
      กลุ่มตามระบบซัมเมอร์ ชัฟเฟิล ยูนิทส์

      • คีโระ 5 (พ.ศ. 2543)
        10นิง มัตสึริ (พ.ศ. 2544)
        โอโดรุ 11 (พ.ศ. 2545)
        ซอลท์5 (พ.ศ. 2546)
        เอช!พี ออล สตาร์ส (พ.ศ. 2547) กลุ่มนักร้องที่สังกัด

        นัตสึมิ อาเบะ เพลงซิงเกิล

        นัตสึมิ อาเบะ อัลบั้มเพลง

        สมุดรวมภาพ